ชุดแต่งงานสมัยอยุธยา วิจิตรงดงาม สะท้อนเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย

เมืองไทยนั้นรุ่มรวยด้วยมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย นับตั้งแต่ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามมาจนถึงงานศิลปะและเครื่องแต่งกายที่ผสมผสานอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว หนึ่งในนั้นคือชุดแต่งงานที่สะท้อนคุณค่าและอัตลักษณ์ความเป็นไทยออกมาได้อย่างโดดเด่น ดังปรากฏในภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง สร้างชื่อให้กับเครื่องแต่งกายไทยให้โด่งดังไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะละครเรื่องบุพเพสันนิวาสที่ทำให้เครื่องแต่งกายของสตรีในสมัยอยุธยาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงชุดแต่งงานสมัยอยุธยาที่เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกันในวันนี้

ชุดแต่งงานสมัยอยุธยา มีลักษณะอย่างไร

การแต่งกายของสตรีในสมัยอยุธยานั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีผ้าซิ่น ผ้าคลุมสะโพก สไบ เสื้อริ้วทอง และโจงกระเบนเป็นส่วนประกอบสำคัญในการแต่งกาย โดยอาจมีการลดความสำคัญของเสื้อผ้าบางชิ้นตามสมัยนิยม รวมทั้ง ยังได้รับอิทธิพลจากการแต่งกายของแขกบ้านแขกเมืองที่เข้ามาในประเทศไทยอย่างแขกอินเดีย คนจีน และฝรั่งตะวันตก ในสมัยอยุธยานั้น เครื่องแต่งกายเป็นสิ่งที่ช่วยบ่งบอกสถานะทางสังคมได้เป็นอย่างดี โดยสตรีผู้สูงศักดิ์นอกจากจะแต่งกายอย่างวิจิตรงดงามแล้ว ยังสวมใส่เครื่องประดับทองเหลืองต่าง ๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลในพิธีสำคัญอย่างงานแต่งงานอีกด้วย

สำหรับชุดแต่งงานในสมัยอยุธยานั้น เจ้าสาวยังนิยมห่มสไบที่ทำมาจากผ้ายกหรือผ้าแพรซ้อนทับกันสองผืน โดยเลือกสไบที่มีสีตัดกันห่มทับลงไปบนผ้าซิ่นจีบหน้านางที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ สีสันของสไบและผ้าซิ่นอาจเลือกได้ตามความเหมาะสม แต่โดยปกติแล้ว ชุดเจ้าสาวมักจะมีสีสันสดใสเพื่อสื่อถึงความปิติยินดีที่ได้ออกเหย้าออกเรือนไปตั้งต้นชีวิตใหม่กับสามี นอกจากนั้น ชุดแต่งงานสมัยอยุธยายังมีการตกแต่งด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับฐานะวงศ์ตระกูลของเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นเพชรนิลจินดา ทองคำ หรือดอกไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความงดงามให้กับเจ้าสาวในวันสำคัญที่สุดของชีวิต

อิทธิพลของชุดแต่งงานสมัยอยุธยาในปัจจุบัน

แม้ว่าเวลาจะล่วงมาหลายร้อยปี แต่อิทธิพลของชุดแต่งงานสมัยอยุธยายังคงปรากฏหลงเหลืออยู่ในชุดไทยแต่งงานปัจจุบัน ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือการห่มสไบและผ้าซิ่นที่ถักทอเป็นลวดลายต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวเป็นของตนเอง หรือที่เรียกกันว่า ‘ผ้ายก’ ที่เกิดจากกระบวนการถักทอโดยใช้ดิ้นเงินดิ้นทองสอดเข้าไปภายในผืนผ้า รวมทั้งใช้สีสันต่าง ๆ ในการสร้างชุดไทยแต่งงานขึ้นมาอย่างประณีตบรรจง ไม่ว่าจะเป็นชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยจักรี ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยประยุกต์

ซึ่งปัจจุบันหาช่างทอที่มีความเชี่ยวชาญในการถักทอชุดไทยดังกล่าวได้ยากเต็มที แต่โชคดีที่ร้าน Deeplove Wedding มีช่างผู้เชี่ยวชาญในการตัดเย็บชุดไทยทุกประเภทที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานมากกว่า 16 ปี ทำให้ฝีไม้ลายมือที่ถักทอลงไปในชุดไทยแต่งงานของร้าน มีความเป็นเอกลักษณ์สูง หาไม่ได้จากร้านอื่น ๆ ด้วยการผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดผ่านผืนผ้าและลวดลายของชุดแต่งงานสมัยอยุธยามาสู่ชุดแต่งงานในปัจจุบันที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทำให้เจ้าสาวที่เช่าชุดไทยแต่งงานกับร้าน Deeplove Wedding มีความงดงามอย่างไทย แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไว้ด้วยความล้ำสมัยไม่ตกเทรนด์แฟชั่นอย่างแน่นอน

เช่าชุดไทยแต่งงานกับร้าน Deeplove Wedding

ปัจจุบันมีร้านเช่าชุดแต่งงานมากมายที่เปิดให้บริการ แต่เป็นที่รู้กันว่าหากเป็นเรื่องชุดไทยแต่งงานแล้ว ร้าน Deeplove Wedding ย่อมเป็นอันดับแรก ๆ ที่ลูกค้าจำนวนมากนึกถึง เนื่องจากทางร้านได้ให้ความสำคัญกับการตัดเย็บชุดแต่งงานที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ด้วยการผสมผสานอัตลักษณ์ของไทยโบราณเข้ากับแฟชั่นร่วมสมัยอย่างกลมกลืน ทำให้ได้ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ที่มีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร สวมใส่สบาย ไม่ต้องใช้เวลาในการแต่งตัวนาน

แต่สามารถขับเน้นความงามของหญิงไทยออกมาได้อย่างเต็มที่ ยิ่งได้เครื่องประดับที่เข้าชุดจากทางร้านแล้ว คุณจะกลายเป็นเจ้าสาวในชุดไทยแต่งงานที่แขกในงานต้องพูดถึงไปอีกหลายวันแน่นอน ผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามร้านได้ที่เบอร์ 02-398-5739 หรือ Line ID: @deeplovewedding

ตอบทุกข้อสงสัย Q&A 

Q : ชุดแต่งงานสมัยอยุธยา ผู้หญิง เป็นแบบไหน? 

ชุดแต่งงานสมัยอยุธยา มีเอกลักษณ์สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทยแท้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ลักษณะของชุดแต่งงานสมัยอยุธยา ผู้หญิง จุดเด่นคือการห่มด้วยสไบผ้ายกหรือผ้าแพรซ้อนทับกันสองผืน โดยเลือกสไบสีตัดกัน สีของชุดแต่งงานจะเลือกสีสันสดใสเพื่อแสดงถึงความปิติยินดี ในพิธีแต่งงานมักจะนำเครื่องประดับอันมีค่ามาสวมใส่ให้เข้ากับชุดแต่งงาน เช่น เพชรพลอย อีกทั้งเครื่องประดับอันมีค่าเหล่านี้ยังสื่อถึงความมั่งคั่ง บ่งบอกสถานะทางสังคมหรือยศถาบรรดาศักดิ์อีกด้วย 

A : ชุดแต่งงานสมัยอยุธยา ผู้ชาย เป็นแบบไหน? 

สำหรับชุดแต่งงานสมัยอยุธยา ผู้ชายหรือฝ่ายเจ้าบ่าวจะนุ่งโจงกระเบนลายไทย สวมเสื้อผ่าอกแขนสั้น หรือสวมเสื้อแขนยาว โดยแขนเสื้อเป็นทรงกระบอก และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ ผู้ชายจะมีผ้าไหมพันที่ช่วงเอว ให้ลุคพี่หมื่นหรือคุณหลวง ท่าเจ้าคุณ ยิ่งสวมใส่ถุงเท้าสีขาวยาว คู่กับรองเท้าหนังยิ่งดูดี หล่อ เท่ในแบบฉบับไทยแท้ ปัจจุบันการนุ่งโจงกระเบนมีแบบสำเร็จรูป ที่ทำออกมาคล้ายการนุ่งสดเพื่อให้การแต่งงานสะดวกสบายย่นระยะเวลาได้ดีเลยทีเดียว  

Q : ชุดไทยพระราชนิยม คืออะไร?

A : ชุดไทยพระราชนิยม คือ ชุดไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน ครั้งหนึ่ง เมื่อรัชกาลที่ 9 ทรงเสร็จไปเยือนประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียรวมถึงยุโรปสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีได้มีโอกาสตามเสร็จไปด้วย ตอนนั้นทรงเห็นว่าคนไทยยังไม่มีชุดประจำชาติที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีได้กลับมาศึกษาเรื่องการแต่งกายตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัยมาจนถึงรัตนโกสินทร์ จึงเป็นที่มาของชุดไทย 8 แบบ ซึ่งก็คือชุดไทยพระราชนิยมที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยอัมรินทร์ ชุดไทยจักรี ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยดุสิต และชุดไทยจักรพรรดิ 

Q : ชุดแต่งงานสมัยอยุธยาประยุกต์ คืออะไร? 

A : ชุดแต่งงานสมัยอยุธยาประยุกต์ คือ การนำเอาชุดไทยโบราณมาประยุกต์ผสมผสานตัดเย็บ เพิ่มหรือลดดีเทลลงเพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น เช่น การนำผ้าลูกไม้มาประยุกต์ การออกแบบผ้าซิ่นทรงทรัมเพต ตลอดจนการเลือกใช้โทนเบจ สีครีม หรือสีพาสเทล ทำให้ได้ชุดไทยที่อ่อนหวานมีความละมุนละไม 

หวังว่าทุกคนคงได้รู้จักกับชุดแต่งงานสมัยอยุธยากันมากขึ้น ทั้งในเรื่องของประวัติความเป็นมา ลักษณะที่โดดเด่น รวมถึงหลากหลายคำถามที่สงสัย เราหาคำตอบมาให้แล้ว เมื่อมองหาชุดแต่งงาน ชุดไทยเจ้าสาวสวยๆ ดีพเลิฟ เราช่วยได้ ร้านให้เช่า/เช่าตัดชุดไทย ราคาประหยัดมีชุดไทยหลายแบบให้เลือก รวมถึงชุดแต่งงานสมัยอยุธยาประยุกต์มีแบบสวยๆ ให้เลือกมากกว่า 100 ชุดเลยทีเดียว