เมื่อใกล้ถึงวันแต่งงานของใครหลาย ๆ คน เชื่อว่าทั้งคู่บ่าวสาวจะต้องรู้สึกยุ่งวุ่นวายอยู่กับขั้นตอนจัดงาน การเตรียมตัวเข้าพิธีการต่าง ๆ รวมไปถึงการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ดังนั้นจึงอาจทำให้คุณทั้งคู่มองข้ามเรื่องเล็ก ๆ ภายในงานแต่งไปบ้าง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องเล็กที่ปล่อยผ่านได้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเรื่องเล็กนั้นกลับพาให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ก็อาจจะพาให้งานมีปัญหาไปด้วย แม้จะไม่ได้ทำให้ถึงขั้นงานล่ม แต่ก็อาจจะสร้างความไม่สบายใจให้กับทั้งคู่บ่าวสาวได้มากพอสมควร ดังนั้นลองมาดู 6 เรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องใหญ่และไม่ควรมองข้าม ดังต่อไปนี้
1.อารมณ์ของคู่บ่าว-สาว
อารมณ์ของคู่บ่าวสาวมีความสำคัญในวันงานแต่งพอสมควร เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะต่างก็คิดว่าเมื่อถึงงานแต่งแล้วย่อมต้องมีความสุขไปกับงาน แต่ไม่มีใครรู้ว่าคู่บ่าวสาวอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ ไม่สบายตัว หรือรู้สึกขุ่นเคืองใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ โดยที่คนภายนอกไม่รู้หรือแม้แต่คนรักที่อยู่เคียงข้างเองก็อาจไม่รู้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงไม่ควรละเลยหรือมองข้ามในเรื่องของอารมณ์คู่บ่าวสาว ทางที่ดีที่สุด คือ การควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ จัดระเบียบทางความคิดให้ถูกต้อง เมื่อเป็นวันสำคัญย่อมต้องคุมสติของตัวเองให้อยู่ โดยเฉพาะอาการตื่นเต้นหรือความเจ้ากี้เจ้าการที่มาจากความวิตกกังวล ควรคุมให้อยู่และลดให้ได้มากที่สุด ทำอารมณ์ให้เย็นและสบายใจ เพื่อทำให้งานออกมาราบรื่นมากที่สุด
2.ฟังจนสับสน
อีกหนึ่งเรื่องที่คนทั่วไปมักมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย คือ การรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น ซึ่งถ้ารับฟังมาแล้วสามารถนำมาผสมผสานกับงานแต่งของตนเองหรือเพียงแค่รับรู้ไว้แล้วปล่อยผ่าน ไม่เก็บมาคิดอะไรให้มากมายก็จะไม่สร้างปัญหา แต่สำหรับคู่รักที่กำลังจะแต่งงานหลายคู่กลับประสบปัญหาฟังความคิดเห็นของผู้อื่นหรือโดนผู้คนทั่วไป ติชมงานจนกลายเป็นทำให้ฟังความต้องการของคนอื่นที่มากกว่าความต้องการของตนเอง ก่อให้เกิดเป็นอารมณ์ที่ไม่ดีและอาจจะพาให้ปรับเปลี่ยนงานแบบกะทันหัน ซึ่งจะสร้างความวุ่นวายต่อผู้จัดและทีมงานไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือฟังแค่พอเข้าใจ ตอบคำถามเท่าที่ตอบได้ แต่ถ้าโดนที่ถามจี้เกินไปให้ละออกมา ไม่ตอบ เดินหนี หรือเปลี่ยนเรื่อง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องรู้สึกวุ่นวายใจมากจนเกินไป
3.เพื่อนบ่าวสาว
เพื่อนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของงาน ควรมีการพูดคุยกันให้เรียบร้อยก่อน โดยเฉพาะการตกลงในเรื่องของคิวงาน การถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง และการออกค่าชุดเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว โดยคู่บ่าวสาวควรจะต้องเป็นผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายเรื่องชุดให้กับเพื่อน ไม่ควรปล่อยให้เพื่อนต้องตัดชุดกันเอง แต่ถ้าต้องการความประหยัดให้เปลี่ยนเป็นการเช่าชุดแทน ซึ่งเรื่องเหล่านี้คุณจะต้องมีการพูดคุยและตกลง พร้อมทำความเข้าใจกับเพื่อนของตัวเองให้มากที่สุด เพื่อทำให้คิวการถ่ายภาพ คิวการเข้าพิธีต่าง ๆ ภายในงานเป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ จนอาจพาให้เพื่อนไม่ยอมมางานได้
4.การเชิญแขก
การเชิญแขกที่มีการแจกการ์ด คุณควรดูเรื่องของชื่อและนามสกุลให้ถูกต้อง ไม่ควรปล่อยให้เกิดการพิมพ์ตกหล่น พิมพ์ผิด หรือความเข้าใจผิดต่าง ๆ ที่อาจพาให้การ์ดงานแต่งออกมาไม่ถูกต้อง เพราะอาจจะพาให้ผู้ที่ถูกเชิญรู้สึกขุ่นเคืองใจได้ นอกจากนี้คุณควรเลือกผู้มาร่วมงานที่สามารถมาได้จริงและเต็มใจมาเท่านั้น เพื่อที่คุณจะได้ไม่เปลืองเรื่องการพิมพ์การ์ดมากเกินไป
5.คนในครอบครัว
เรื่องสำคัญที่คู่บ่าวสาวมักมองเป็นเรื่องเล็ก คือ คนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด แต่จัดงานในกรุงเทพฯ หรือจัดงานข้ามจังหวัด คุณควรดูแลในเรื่องของที่อยู่ ที่พัก อาหาร และเรื่องต่าง ๆ ของคนในครอบครัวให้ดี ไม่ควรปล่อยให้กลายเป็นความเข้าใจผิดหรืออาการน้อยใจใด ๆ ที่อาจพาให้ผิดใจกันได้ รวมถึงการยอมสวมใส่เครื่องประดับของฝั่งญาติเจ้าบ่าวหรือฝั่งญาติเจ้าสาว ที่อาจจะเป็นเครื่องประดับตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อทำให้เห็นถึงความเคารพ ความรักที่มีต่อทั้งคู่บ่าวสาวและครอบครัว
เรื่องเหล่านี้มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สามารถจัดการได้ แต่เมื่อใดที่เกิดขึ้นแล้วจะพาให้คู่บ่าวสาวที่ต้องเผชิญรู้สึกหงุดหงิดได้ไม่น้อย แม้จะไม่ได้พาให้งานล่มแต่ก็อาจจะทำให้คุณผิดใจกับเพื่อนหรือญาติ จนแทบมองหน้ากันไม่ได้หลังเลิกงาน รวมไปถึงการพาให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีภายในงานอีกด้วยดังนั้นถ้าคุณเจอเรื่องเหล่านี้ จึงไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องเล็กและไม่ควรมองข้าม แต่ควรจัดการแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องที่สุด