จัดงานแต่งงาน อย่างไรให้ถูกใจผู้ใหญ่ ที่นี่มีคำตอบ!

แม้ว่าการจัดงานแต่งงานจะเป็นเรื่องของคู่บ่าว-สาว แต่ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ ญาติผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายที่จำเป็นจะต้องใส่ใจต่อความรู้สึกและรับฟังความคิดเห็นให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจพาให้งานแต่งล่มได้ง่าย ๆ ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาเทคนิคการจัดงานแต่งเพื่อให้ถูกใจญาติผู้ใหญ่ สามารถติดตามได้จากภายในบทความนี้

เทคนิคจัดงานแต่งงานให้ถูกใจญาติผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย

การจัดงานแต่งงาน ถ้าจะให้สมบูรณ์แบบจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีความคิดเห็นจากทางญาติผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายร่วมด้วย ทั้งนี้คำว่า “ญาติผู้ใหญ่” ที่กล่าวถึงให้คุณจำกัดความไว้ที่คุณพ่อและคุณแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย หรือผู้ใหญ่ใกล้ชิดที่เคารพ  เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเพิ่มมากขึ้นของญาติคนอื่น ๆ แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าควรจะจัดงานแต่งอย่างไรให้ถูกใจญาติของทั้ง 2 ฝ่ายมากที่สุด ลองมาดูเทคนิคที่จะช่วยทำให้การจัดงานแต่งงานของคนถูกใจญาติผู้ใหญ่และเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น คือ

1.ชวนผู้ใหญ่ช่วยหาฤกษ์

ก่อนที่คุณจะจัดงานแต่งงาน ควรชวนผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายมานั่งพูดคุยและปรึกษาหารือเรื่องฤกษ์แต่งงาน จูงมือกันไปหาพระหรือผู้ดูฤกษ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นร่วมกันว่าเหมาะสม รวมไปถึงการจับเข่าพูดคุยกันเพื่อทำให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายมีความรู้สึกพึงพอใจต่องานแต่งนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้วันที่จัดงานคุณจะสามารถทำทุกเรื่องราวได้อย่างราบรื่น ไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกน้อยใจหรือไม่พึงพอใจ พร้อมทำให้งานแต่งของคุณเป็นไปอย่างชื่นมื่นและนำพาแต่บรรยากาศที่มีความสุขเท่านั้น

2.จัดงานเช้าให้ดี

เชื่อว่าญาติผู้ใหญ่ของหลายบ้าน จะต้องรู้สึกเคร่งครัดต่อการจัดงานช่วงเช้าเป็นอย่างมาก เพราะงานช่วงเช้าถือว่าเป็นงานแต่งแบบไทย ๆ ที่ถูกส่งต่อวัฒนธรรมนี้กันมาอย่างยาวนาน ดังนั้นการจัดงานช่วงเช้าของคุณควรทำให้ดี ทำให้เป๊ะและทำให้ถูกใจผู้ใหญ่มากที่สุด ด้วยการจ้างผู้จัดงานแต่งงานที่มีประสบการณ์สูง สามารถที่จะทำให้งานเช้าของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและทำทุกขั้นตอนอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะตั้งแต่ขั้นตอนการใส่บาตรทำบุญของคู่บ่าว-สาว รวมไปถึงขั้นตอนการรดน้ำสังข์และอีกหลายขั้นตอนสำคัญที่จะต้องทำให้ผู้ใหญ่ที่มาในงานรู้สึกว่าไม่มีขั้นตอนใดที่จะผิดพลาด เพียงเท่านี้ผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายย่อมมาร่วมงานอย่างมีความสุขแน่นอน

3.เลือกสถานที่ให้เหมาะสม

สำหรับการจัดงานแต่งงานในช่วงเย็นหรืองานเลี้ยงช่วงกลางคืน คุณควรเลือกสถานที่แต่งงานให้เหมาะสม ด้วยการเลือกห้องรับรองที่มีห้องพักสำรองสำหรับญาติผู้ใหญ่ เพราะญาติผู้ใหญ่ของบางฝ่ายอาจมีอายุมากแล้ว ดังนั้นจึงอาจจะไม่สามารถอยู่ไปได้ตลอดทั้งงาน แต่ถ้าจะกลับก่อนคงไม่ใช่เรื่องดี เพราะจะต้องมีพิธีส่งตัวเข้าหอช่วงหลังงานเลิก ดังนั้นคุณจึงควรเลือกสถานที่แต่งงานช่วงกลางคืนที่มีห้องรับรองแขกสำหรับผู้ใหญ่ ควรเลือกโรงแรมหรือที่พักใกล้เคียงกับสถานที่จัดงาน เพื่อให้ญาติผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายได้พักผ่อนก่อนถึงช่วงเวลาส่งตัวเข้าหอและกลับบ้านเพื่อใช้ชีวิตตามปกติในวันรุ่งขึ้น จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป

4.รายละเอียดงานต้องชัดเจน

สำหรับขั้นตอนและรายละเอียดของการจัดงานแต่งงานช่วงเช้ากับช่วงค่ำ ควรถูกทำออกมาอย่างชัดเจน เพื่อนำไปให้ญาติทั้ง 2 ฝ่ายได้ตรวจสอบก่อนการจัดงานแต่งจริง จากนั้นให้ว่าที่บ่าว-สาวได้พูดคุยกับทางญาติ เพื่อให้ญาติของทั้งสองฝั่งได้ตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงให้งานมีความถูกใจญาติผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนตัวงานควรตั้งอยู่บนความพึงพอใจของว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วยเช่นกัน

5.จัดพิธีสำคัญตามอย่างผู้ใหญ่

สำหรับพิธีการสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเพณีในแต่ละศาสนา คุณควรยกให้เป็นไอเดียของทางผู้ใหญ่ เช่น ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อสายจีนแล้วผู้ใหญ่ของฝ่ายนั้นต้องการให้มีจัดพิธียกน้ำชากับพิธีแต่งแบบจีน คุณควรปล่อยให้ญาติทางฝ่ายนั้นเป็นผู้จัดเตรียมพิธีการสำคัญต่าง ๆ และควรทำตามที่ผู้ใหญ่ได้บอกไว้ ก่อนการจัดงานแต่งงานในแบบที่คู่บ่าว-สาววางแผนไว้อีกครั้ง เพื่อทำให้เกิดความพึงพอใจของญาติทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งการจัดพิธีสำคัญเหล่านี้ควรให้ญาติที่มีความรู้ได้เข้ามาเป็นผู้ร่วมจัดการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้มากยิ่งขึ้น

6.จัดการ์ดและของชำร่วย 2 รูปแบบ

ถ้าคุณไม่อยากรู้สึกปวดหัวกับการถูกติเรื่องการ์ดหรือของชำร่วยที่ถูกใจเพื่อนสนิทที่มางาน แต่อาจไม่ถูกใจผู้ใหญ่ให้คุณใช้วิธีการเตรียมการ์ดและของชำร่วย 2 รูปแบบ ซึ่งก่อนจะทำทั้งการ์ดและของชำร่วย คุณควรนำรูปแบบที่คุณต้องการไปให้ญาติผู้ใหญ่และเพื่อน ๆ ได้เลือกว่าแบบไหนที่ชื่นชอบที่สุด เมื่อได้มาแล้วให้คุณจัดการแจกการ์ดสำหรับผู้ใหญ่และผู้ที่มางานคนอื่น ๆ ต่างกัน รวมไปถึงของชำร่วยเพื่อที่จะได้รับความพึงพอใจกันทุกฝ่าย

สำหรับผู้ที่ต้องการจัดงานแต่งงาน แล้วสามารถทำให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรู้สึกพึงพอใจต่องานที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงทำให้งานแต่งมีความราบรื่นและทั้งว่าที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจะสามารถแต่งงานได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องรู้สึกกังวลใจใด ๆ คุณสามารถนำทั้ง 6 เทคนิคนี้ไปใช้ร่วมกับงานแต่งของคุณได้เลย