แนะนำการดูแลผู้มาร่วมงานของว่าที่บ่าว-สาว เพื่อป้องกันปัญหาแขกกลับบ้านก่อน
“งานแต่งงาน” งานที่มีคุณค่า และมีความหมายมากที่สุดของคู่รัก แน่นอนว่าการจัดงานแต่งงานจะไม่ได้มีแค่คุณ 2 คนในงานเท่านั้น! แต่ต้องมีแขก ญาติผู้ใหญ่ พ่อ-แม่, พี่-น้อง รวมถึงเพื่อน เป็นหน้าที่ของเจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่จะต้องจัดงานแต่งที่ทำให้แขกที่มาร่วมงานประทับใจ สนุกไปกับงาน และไม่เบื่อจนอยากกลับบ้านก่อน
การเตรียมงานแต่งงาน
กว่างานแต่งงานจะมาถึง เจ้าบ่าว-เจ้าสาวหลาย ๆ คู่จะต้องเตรียมงานมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นงานใหญ่ที่สุดของชีวิต ทั้งรอฤกษ์ รอเงิน และ รอให้ถึงวันที่เหมาะสม นอกจากนี้การจัดงานแต่งงานยังมีรายละเอียดยิบย่อยสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง เพื่อไม่ให้งานแต่งออกมาผิดพลาด!
แนะนำการดูแลผู้มาร่วมงานของว่าที่บ่าว-สาว เพื่อป้องกันปัญหาแขกกลับบ้านก่อน
เวลาไปงานแต่งงาน คุณเคยเห็นไหมว่า? ตอนเช้ามีแขกมาร่วมงานเยอะมาก แต่พอสาย ๆ หรือ ก่อน–หลังเที่ยง งานก็จะเงียบเหงา เพราะแขกทยอยกันกลับบ้าน ซึ่งสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ถ้าหากว่าไม่อยากให้งานแต่งเงียบเหงา วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการดูแลผู้มาร่วมงานของว่าที่บ่าว-สาว เพื่อป้องกันปัญหาแขกกลับบ้านก่อน ต้องทำอย่างไรบ้าง? วันนี้มีคำตอบ
1.ระบุ วันที่ เวลา ให้ชัดเจนก่อนเชิญแขก!
ข้อแรกสำคัญมากไม่ว่าคุณจะเชิญใครมาร่วมงาน คุณจะต้องกำหนดวันที่และเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้แขกผู้มาร่วมงานได้วางแผนและเตรียมการก่อนถึงวันงาน! ถ้าหากว่าคุณกลับมาเปลี่ยนเวลาเปลี่ยนสถานที่ทันควัน นอกจากแขกจะมาร่วมงานได้แค่แป๊บเดียวแล้ว หนักกว่านั้นคือ แขกอาจจะไม่สามารถมาร่วมงานได้เลย
2.อย่าปล่อยให้แขกงง!
ต่อมาเมื่อถึงวันงานจริง เจ้าบ่าว-เจ้าสาวห้ามทำให้แขกงงเด็ดขาด ถ้าจะให้ได้เจ้าบ่าว-เจ้าสาวควรให้เพื่อน / ญาติ หรือ จ้างคนดูแลงานประจำจุด เวลาแขกมางานจะได้ไม่งง ไม่รู้ว่าต้องเข้าทางไหน ออกทางไหน หรือ เข้าแล้วจะต้องเดินไปตรงไหน เริ่มตั้งแต่ทางเข้างาน เดินไปห้องจัดเลี้ยง มองหาโต๊ะของตัวเอง หรือ แม้แต่มองหาบ่าว-สาว
3.พยายามคุยกับแขกให้ครบทุกคน
ถึงแม้ว่าเจ้าบ่าว-เจ้าสาวจะยุ่งแค่ไหน เมื่อจบพิธีการถึงเวลาเดินหาแขก คุณต้องพยายามคุยกับแขกให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ญาติของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ยิ่งถ้าหากว่าเป็นแขกที่ต้องเดินทางมาไกลจากต่างจังหวัด อย่าลืมที่จะเข้าไปทักทาย ถามไถ่ และกล่าวขอบคุณ เพื่อให้แขกรู้สึกดีและไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนเกินในงาน
4.จัดโต๊ะ / ที่นั่งให้เหมาะสม
เจ้าบ่าว-เจ้าสาวจะต้องทำการเตรียมโต๊ะ เตรียมที่นั่ง ให้พอดีกับจำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน ควรจะมีการจัดแจงรายละเอียดให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้แขกรู้สึกเกร็ง หรือ ไม่สบายใจ ถ้าหากว่าต้องไปนั่งร่วมกับคนที่ไม่คุ้นเคย หรือ ไม่มีโต๊ะให้นั่ง ควรจะกำหนดแขกที่มานั่ง มาด้วยกัน สนิทกัน ก็นั่งโต๊ะเดียวกัน เช่น โซนโต๊ะญาติพี่น้องฝั่งเจ้าสาว / โต๊ะญาติพี่น้องฝั่งเจ้าบ่าว / โต๊ะหัวหน้างาน / โต๊ะเพื่อนร่วมงาน / โต๊ะเพื่อนที่มหาลัย / โต๊ะเพื่อสมัยมัฐยม และอื่น ๆ เพื่อให้แขกอยู่นาน ๆ แล้วไม่รู้สึกเบื่อ หรือ รู้สึกเหงา เพิ่มเติมโต๊ะแขกคนสำคัญควรจะพิเศษกว่าโต๊ะอื่น ๆ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพ การให้เกียรติ และ ความใส่ใจ
5.หาคนเอ็นเตอร์เทนในงาน
เมื่อเจ้าบ่าว-เจ้าสาวจะต้องทำตามขั้นตอนพิธี ควรจะมีการจ้าง หรือ จัดหาคนเอ็นเตอร์เทนในงาน อยู่บนเวทีคอยสร้างสีสรรค์ ให้ทุกคนรู้สึก Enjoy นอกจากนี้อาจจะมีการเปิดเพลง / จ้างวงดนตรี เพื่อให้บรรยากาศในงานเงียบเหงาจนแขกอยากกลับบ้าน!
6.กังวลมากเกินไป!
และข้อต่อมาเจ้าบ่าว-เจ้าสาวอย่ากังวลมากเกินไป กลัวแขกไม่สนุก กลัวแขกเบื่อ หรือ กลัวแขก ไม่อยากมา ความคิดแบบนี้จะทำให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเป็นกังวล จนรู้สึกนอยด์ตัวเอง เพียงแค่ทำใจให้สบาย และทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอ
ในงานแต่งงานนอกเหนือจากการสร้างสีสัน ความสนุก และรอยยิ้มแล้ว อย่าลืมเรื่องของ “ความเหมาะสม” ความพอดีพองาม รวมถึงคำพูดคำจา เมื่อแขกคนสำคัญหรือพ่อ-แม่, พี่-น้องกลับไปหมดแล้ว ค่อยมาเต็มที่กับเพื่อน ๆ ทีหลังจะดีกว่า
จัดงานแต่งงานเลือกอาหารแบบไหน แขกชอบ มีความเป็นสิริมงคล
การเลือกอาหารในงานแต่งงานเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และสร้างความประทับใจให้กับแขกที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งงานได้เช่นกัน ยิ่งเป็นอาหารงานแต่งงานที่มีความเป็นสิริมงคลด้วยก็จะยิ่งดีมากๆ ซึ่งเรามีเคล็ดลับการเลือกอาหารในงานแต่งงานเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตคู่มาฝาก
1.ลาบ
ลาบเป็นเมนูอาหารของทางภาคอีสาน เมนูง่ายๆ ที่สื่อความหมายดีซึ่งเป็นคำพ้องเสียงคำว่า ลาภ หมายถึง เงินทอง โชคลาภ เมนูนี้รสชาติเผ็ดแซ่บ ทานคู่กับผัก อย่างเช่น แตงกวาหรือถั่วฝักยาวยิ่งอร่อย ทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็ได้ การเสิร์ฟเมนูลาบนั้นเชื่อว่าจะทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวพบเจอแต่โชคลาภ ความโชคดี เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย
2.เมนูปลา
อีก 1 เมนูที่มีความเป็นสิริมงคลนั่นก็คือเมนูปลา เนื่องจากคำว่าปลาในภาษาจีนนั้นพ้องเสียงกับคำว่าร่ำรวย เมนูปลานิยมนำมาเสอร์ฟในพิธีงานแต่งงานช่วงเช้า สื่อถึงความร่ำรวย ความมั่งคั่งของเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีกินและมีใช้ไม่ขัดสน ชีวิตมีความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป
3.แกงเขียวหวาน
แกงเขียวหวาน เป็นเมนูอาหารไทยที่มีความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อซึ่งคำว่า หวาน ในชื่อของแกงเขียวหวานนั้นสื่อถึงความรักที่แสนหวาน มีความโรแมนติกรักกันตลอดไป ไม่เสื่อมคลาย แกงเขียวหวานเสิร์ฟในพิธีช่วงเช้าสามารถปรุงเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมทานคู่กับข้าวสวยหรือเสิร์ฟคู่กับขนมจีนก็จะยิ่งดี
4.ขนมจีน
ขนมจีนเป็นเมนูที่มีความเป็นสิริมงคล นิยมเสิร์ฟในงานแต่งพิธีเช้า ขนมจีนที่เสิร์ฟแขกมาร่วมงานจะไม่มีการตัดเส้นของขนมจีนเพราะเชื่อว่าเส้นขนมจีนมีความยาวทำให้ชีวิตคู่อยู่กันยืนยาว ไม่ถูกบั่นทอนนั่นเอง สำหรับขนมจีนนั้นสามารถเลือกได้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยากะทิ ขนมจีนน้ำยาป่า หรือจะเสิร์ฟคู่กับแกงเขียวหวานก็ดี
5.ขนมไทยเสริมสิริมงคล
ในส่วนของขนมไทยเป็นเมนูของหวานที่หลายคนโปรดปราน เมนูขนมไทยในงานแต่งงาน เสริมสิริมงคล อาทิเช่น ทองหยิบทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน จ่ามงกุฎ ทองม้วน ลอดช่องกะทิ ข้าวเหนียวน้ำกะทิ ขนมเสน่ห์จันทร์ ทองพลุ ทองเอก ข้าวตอกน้ำกะทิ ขนมพระพราย ขนมชั้น เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือเมนูอาหารแนะนำสำหรับงานแต่งงานเป็นเมนูอาหารที่มีความเป็นสิริมงคล แถมยังเป็นเมนูอาหารที่แขกมาร่วมงานชื่นชอบอีกด้วย เอาเป็นว่าถ้าเมนูอาหารที่อร่อยมีความเป็นสิริมงคลด้วยก็จะยิ่งดี รับรองว่าแขกที่มาร่วมในงานแต่งงาน ไม่หนีกลับบ้านแน่นอน