ไอเดียชุดไทยแต่งงานแขนยาว
ประเทศไทย นับได้ว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญา และด้วยความที่เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ จึงก่อให้เกิดทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ผสมผสานกันอย่างงดงาม สืบทอดมาถึงปัจจุบัน อาทิเช่น ผ้าไทย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกที่ต้องรักษาร่วมกันตราบนานเท่านาน อีกทั้งวัฒนธรรมประเพณีและขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในแต่ละภูมิภาค ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ รากฐานทางวัฒนธรรมของกลุ่มคนในภูมิภาค การรับวัฒนธรรมจากภายนอกและลักษณะการผสมผสานทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นผลให้ผ้าไทยแต่ละภูมิภาคมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์โดยเฉพาะ ทั้งนี้ในวันสำคัญของชีวิต เช่น งานฉลองมงคลสมรส งานหมั้น งานแต่งงาน มักจะสวมใส่ชุดไทยให้เกิดความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตสมรส
ชุดประจำชาติไทย รู้จักกันในนามว่า “ชุดไทยพระราชนิยม” ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2503 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ พระองค์ได้ทรวงพระราชดำริว่า “สมควรที่จะสรรค์สร้างการแต่งกายชุดไทยให้เป็นไปตามประเพณีที่ดีงาม” จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการศึกษา ค้นคว้าเครื่องแต่งกายสมัยต่าง ๆ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ โดยให้มีฟื้นฟู ปรับปรุง และพัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย และมีรูปแบบที่หลากหลาย เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ชุดไทยพระราชนิยม” ซึ่งมี 5 แบบจาก 8 แบบ ที่มักนำมาใช้สวมใส่เป็นชุดไทยแต่งงานแขนยาว
1.ชุดไทยจิตรลดา
ความยาวของแขนเสื้อสำหรับชุดไทยจิตรลดาเป็นแบบแขนกระบอก และความยาวของแขนเสื้อจะยาวอยู่ในระดับข้อมือ ซึ่งชุดไทยจิตรลดาจะมีความเป็นทางการมากกว่าชุดไทยเรือนต้น โดยท่อนบนเป็นเสื้อคอกลม แขนกระบอกยาว ผ่าอก ขอบตั้งเพียงเล็กน้อย จะสวมใส่คู่กับผ้าซิ่นที่ทอจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย นุ่งแบบป้ายหน้า และให้ความยาวของผ้าซิ่นอยู่ในระดับข้อเท้า
2.ชุดไทยอมรินทร์
ความยาวของแขนเสื้อสำหรับชุดไทยอมรินทร์เป็นแบบแขนกระบอก และความยาวของแขนเสื้อจะยาวอยู่ในระดับข้อมือ เป็นชุดที่มีความคล้ายคลึงกับชุดไทยจิตรลดา แต่จะใช้เนื้อผ้าและเครื่องประดับที่หรูหรามากกว่า ท่อนบนเป็นเสื้อคอตั้ง แขนกระบอกยาว ผ่าอก จะสวมใส่คู่กับผ้าซิ่นที่ทอจากผ้าไหมยกดอกที่มีทองแกมหรือยกทองทั้งชุด นุ่งแบบป้ายหน้า และให้ความยาวของผ้าซิ่นอยู่ในระดับข้อเท้า
3.ชุดไทยบรมพิมาน
ความยาวของแขนเสื้อสำหรับชุดไทยบรมพิมานเป็นแบบแขนกระบอก และความยาวของแขนเสื้อจะยาวอยู่ในระดับข้อมือ มีลักษณะท่อนบนเป็นเสื้อคอกลม ขอบตั้งขึ้น แขนกระบอกยาว ผ่าด้านหน้าหรือด้านหลังของเสื้อ จะสวมใส่คู่กับผ้าซิ่นที่ทอจากผ้าไหมที่มียกดอกหรือยกทองที่มีเชิงทองทั้งตัว ผ้าซิ่นมีลักษณะจีบหน้ามีชายพก โดยตัวเสื้อและผ้าซิ่นจะเย็บติดกันเป็นชุดเดียว และให้ความยาวของผ้าซิ่นอยู่ในระดับข้อเท้า
4.ชุดไทยศิวาลัย
ความยาวของแขนเสื้อสำหรับชุดไทยศิวาลัยเป็นแบบแขนกระบอก และความยาวของแขนเสื้อจะยาวอยู่ในระดับข้อมือ เป็นชุดที่มีความคล้ายคลึงกับชุดไทยบรมพิมาน มีท่อนบนเป็นเสื้อแขนยาว คอตั้งเล็กน้อย ห่มสไบปักลายซ้อนทับเสื้ออีกชั้นแต่ไม่ต้องมีแพรจีบรองพื้น สวมกับผ้าซิ่นที่ทอด้วยไหมยกดิ้นทอง ซึ่งจะเย็บตัวเสื้อติดกับผ้าซิ่นเป็นชุดเดียวกัน
5.ชุดไทยเรือนต้น
ชุดไทยเรือนต้นจะมีความแตกต่างกับชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน และชุดไทยศิวาลัย เพียงเล็กน้อย คือ ความยาวของแขนเสื้ออยู่ในระดับยาวคลุมข้อศอกลงมาเล็กน้อย เป็นระดับแขน 3 ส่วน ซึ่งเป็นชุดไทยแบบลำลอง ท่อนบนเป็นเสื้อแขน 3 ส่วน คอกลม ไม่มีขอบตั้ง ผ่าอก ติดกระดุม 5 เม็ด นิยมนุ่งกับผ้าซิ่นที่ทอจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย ลายริ้วตามขวางหรือตามยาว และให้ความยาวของผ้าซิ่นอยู่ในระดับข้อเท้า
นอกจากทั้ง 5 แบบที่เป็นชุดไทยพระราชนิยมที่นิยมสวมใส่ชุดไทยแต่งงานแขนยาวแล้ว ยังมีชุดไทยประยุกต์หรือชุดไทยแขนหมูแฮม ซึ่งเป็นเสื้อแขนยาว ทำจากผ้าลูกไม้และความยาวของแขนนิยมให้อยู่ในระดับข้อมือเช่นกัน
คำแนะนำใส่ชุดไทย ชุดแต่งงานอย่างไรให้สวย
ชุดไทยชุดแต่งงานแขนยาวจะเห็นได้ว่าที่ได้รับความนิยมหลักๆ แล้วมีชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอัมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมานชุดไทยศิวาลัยและชุดไทยเรือนต้น ปัจจุบันอาจมีการผสมผสานความทันสมัยเข้าไปด้วยหรือเรียกว่าชุดไทยประยุกต์ ได้ลุคเจ้าสาวที่ไม่ตกเทรนและยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้เหมือนเดิม การใส่ชุดไทยชุดแต่งงานเป็นความฝันของเจ้าสาวหลายคน และวันนี้เรามีคำแนะนำในการใส่ชุดไทยให้สวยมาฝากด้วย
1.การเลือกความยาวของสไบ
ชุดไทยห่มสไบแบ่งออกเป็น 3 แบบได้แก่ ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยจักรีและชุดไทยจักรพรรดิ ความยาวของสไบปกติอยู่ที่ 3 เมตรแต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดรอบลำตัวของเจ้าสาวด้วย สำหรับเจ้าสาวตัวเล็กแนะนำ เก็บชายสไบขึ้น ส่วนเจ้าสาวรูปร่างอวบรอบตัวหนาควรเลือกผ้าสไบที่มีความยาวมากขึ้น สไบควรมีความยาวลงมาระพื้นพอสมควรแต่จะไม่ปล่อยให้ยาวมากจนกองที่พื้นเกินความพอดี
2.ความยาวของผ้านุ่ม
นอกจากความยาวของสไบที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว ความยาวของผ้านุ่มก็สำคัญไม่แพ้กัน การเลือกผ้านุ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของชุด ความเหมาะสมหรือความชอบส่วนตัวของเจ้าสาว โดยปกติแล้วผ้านุ่มความยาวจะอยู่ที่ 1.8 ถึง 2 เมตร หากเป็นถ้านุ่งสดจะนำมานุ่งแล้วจับจีบด้านหน้า ผ้าที่มีความยาวน้อยกว่า 3 เมตร เราไม่แนะนำ เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะทำให้เจ้าสาวดูสง่างามมากขึ้นนั่นคือการสวมใส่รองเท้าส้นสูง เลือกความยาวของผ้านุ่งให้เห็นหน้าเท้าหรือปลายเท้าเพียงเล็กน้อย
3.ความยาวของแขนเสื้อ
ชุดไทยแขนเสื้อลักษณะเป็นทรงกระบอก ได้แก่ ชุดไทยศิวาลัยและชุดไทยบรมพิมาน ถ้าอยากใส่ชุดไทยออกมาให้สวยงามมีออร่าความยาวของปลายแขนเสื้อจะต้องคลุมบริเวณกระดูกข้อมือพอดี หากเห็นกระดูกข้อมือแสดงว่าแขนเสื้อเต่อ หรือถ้ายาวมากเกินไปจนปิดบริเวณฝ่ามือก็จะดูยาวเกินความพอดี ซึ่งดูไม่ดีเท่าไหร่นัก
4.เลือกชุดไทยให้แมทช์กับสีผิว
- เจ้าสาวผิวขาวอมชมพูหรือขาวซีด ควรหลีกเลี่ยงชุดไทยโทนสีพาสเทลและจะทำให้สีผิวของคุณดูจืดชืดดูซีดไม่โดดเด่น แนะนำเป็นโทนสีฟ้า สีชมพูหรือสีน้ำเงิน เลือกเครื่องประดับเงินก็ช่วยเสริมให้ผิวดูเปล่งประกายดูมีชีวิตชีวา
- เจ้าสาวผิวขาวเหลืองเหมาะกับชุดไทยโทนสีอบอุ่น เพิ่มความสว่างไสวดูมีออร่าอย่าง เช่น สีครีม สีทอง สีแดง สีชมพูอมส้ม หรือชุดเจ้าสาวสีทอง เป็นต้น ทำให้เจ้าสาวดูสดใสมากขึ้นสำหรับเครื่องประดับเลือกสีทองก็จะทำให้ดูสวยเป๊ะปังขึ้นมาอีกระดับ
- เจ้าสาวผิวสีเข้ม เลือกชุดไทยชุดไหนให้ดูเจิดจรัส แนะนำชุดไทยโทนสีอ่อนหรือสีพาสเทล อย่างเช่น สีครีมทอง ครีมน้ำตาล หรือสีเบจ เป็นต้น อาจเลือกเป็นสีสันโทนร้อนอย่าง สีแดงอมส้มก็ได้ ช่วยขับให้ผิวดูมีน้ำมีนวลเจ้าสาวผิวเข้มสามารถเลือกใส่เครื่องประดับได้ทั้งสีเงินและสีทองเลยทีเดียว
ไอเดียชุดไทยแต่งงานแขนยาว เราหวังว่าเจ้าสาวป้ายแดงจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือกชุดไทย ชุดแต่งงานสวยๆ ได้ รวมไปถึงเทคนิคการสวมใส่ชุดไทยอย่างไรให้ดูสวยงาม มีออร่า การเลือกชุดไทยอย่างไรให้แมทช์กับสีผิว คำแนะนำเหล่านี้เอาไปใช้เป็นแนวทางกันได้เลย
เครื่องประดับชุดไทยมีแบบไหนบ้างที่ได้รับความนิยม
สรุปชุดไทยแต่งงานแขนยาวจะมีชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยศิวาลัยและชุดไทยเรือนต้น รวมไปถึงชุดไทยประยุกต์ด้วยที่มีการประยุกต์เอาชุดไทยโบราณผสมผสานกับความทันสมัยหรือ Detail ที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ไม่ตกเทรน การสวมใส่ชุดไทยชุดแต่งงานสวมใส่อย่างไรให้สวย ว่าที่เจ้าสาวนำไปใช้เป็นไอเดียได้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับชุดไทยก็คือเครื่องประดับชุดไทย ส่วนจะมีแบบไหนที่ได้รับความนิยม เราไปดูกัน
ลูกไม้ปลายมือ
เริ่มต้นกันที่เครื่องประดับชิ้นนี้ลูกไม้ปลายมือ ได้รับความนิยมอย่างมากเป็นสร้อยข้อมือชนิดหนึ่ง โดยใส่ไว้ที่ข้อมือทั้งด้านซ้ายและด้านขวาใส่เป็นชิ้นแรกตรงปลายสุดที่ข้อมือ จึงถูกเรียกว่าลูกไม้ปลายมือนั่นเอง
รัดแขน
รัดแขนเป็นเครื่องประดับที่ในอดีตนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะสตรีชั้นสูง ชนชั้นขุนนางหรือพระมหากษัตริย์เป็นของที่มีมูลค่าเป็นงานศิลปะที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน
ปะวะหล่ำ
ปะวะหล่ำ เป็นสร้อยข้อมือชนิดหนึ่งที่ใส่ทั้งสองข้าง โดยปกติแล้วจะใส่เป็นเครื่องประดับชิ้นที่ 2 ต่อจากลูกไม้ปลายมือ เครื่องประดับชิ้นนี้ได้รับอิทธิพลมาจากชาวจีน เชื่อกันว่ามีลักษณะเหมือนโคมไฟให้ความสว่างไสวเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรือง
กำไล
กำไลเครื่องประดับที่ได้รับความนิยม กำไรโบราณมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น กำไรหัวกระดุม กำไลกระดุม กำไลนพเก้ากำไลพิรอด กำไดอกพิกุล กำไลหัวบัว เป็นต้น นิยมใส่ที่แขนทั้งสองข้าง
สังวาล
สังวาลคือสายสร้อยที่ประดับด้วยการสะพายคาดบนไหล่ ในอดีตผู้หญิงไทยจะใส่เครื่องประดับสังวาลกับชุดไทยแบบสไบเฉียงนอกจากนั้น สังวาลยังเป็นเครื่องประดับที่สามารถบ่งบอกถึงสถานะได้อีกด้วย
สร้อยคอ ทับทรวง
อีกหนึ่งเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมสำหรับชุดเจ้าสาวหรือชุดไทยก็คือ สร้อยคอ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล มักเป็นสร้อยคอทองคำหรือสร้อยคอที่ประดับด้วยอัญมณี ทับทิม เพชร พลอย สำหรับทับทรวงนั้นเป็นเครื่องประดับอกในอดีตมีการออกแบบอย่างประณีตเฉพาะช่างหลวงในวังเท่านั้นที่สามารถทำได้
ต่างหู
เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือต่างหูได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต่างหูช่วยเสริมบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจทำให้ดูโดดเด่นมีเสน่ห์ ต่างหูที่ใช้กับชุดไทยส่วนใหญ่จะเป็นต่างหูพลอย ต่างหูเพชร หรือทองคำที่ออกแบบและฉลุลวดลาย
ปิ่นปักผม
ปิ่นปักผมเครื่องประดับสำหรับชุดไทยที่มีมานานเครื่องประดับสตรีแบบล้านนาในสมัยโบราณทำจากเหล็ก ทองหรือเงิน ปิ่นปักผมบางชิ้นมีลวดลายแสนเรียบง่ายหรือมีการสลับลวดลายที่งดงามวิจิตรตาซึ่งแตกต่างกันออกไป
ปั้นเหน่ง เข็มขัด
ปั้นเหน่งหรือหัวเข็มขัดเครื่องประดับเอว สำหรับผ้าซิ่นหรือการนุ่งโจงกระเบน โดยทำมาจากของมีค่าหรืออัญมณี การประดับตกแต่งมักอยู่กับสายคาดประดับที่เอวหรือสายเข็มขัด สวมประดับชุดเจ้าสาวทำให้ดูมีทรวดทรงองค์เอวมากขึ้น
สำหรับเจ้าสาวที่กำลังมีแพลนแต่งงานเร็วๆ นี้แต่ยังไม่มีไอเดียชุดไทยแขนยาว เอาไอเดียของเราไปใช้ได้ รวมถึงเทคนิคการใส่ชุดไทยให้ดูสวยงามด้วยและที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับชุดไทยก็คือเครื่องประดับมีเครื่องประดับชิ้นไหนที่ได้รับความนิยม ก็สามารถใช้เป็นแนวทางได้เช่นกัน