การ์ดแต่งงานถือว่าเป็นหนึ่งในไอเท็มสำคัญก่อนจะเกิดงานแต่ง เพราะจะต้องนำไปเชิญทั้งญาติผู้ใหญ่และเพื่อนที่จะมาร่วมงาน ทั้งยังเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงรสนิยมของคู่แต่งงานได้เป็นอย่างดี ยิ่งการ์ดมีความสวย ดีไซน์แปลกใหม่ หรือมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผู้ที่มาร่วมงานจดจำได้ดีมากเท่านั้น จึงทำให้คู่ที่กำลังจะเป็นว่าที่บ่าว-สาวต่างก็มองหาไอเดียการ์ดสำหรับการใช้ในงานแต่งของตัวเอง ดังนั้นจึงขอแนะนำ 5 ไอเดียเด็ดที่จะทำให้คุณได้การ์ดที่ตรงใจมากที่สุด
แต่งอย่างไรให้น่าจดจำด้วย 5 ไอเดียการ์ดแต่งงาน สุดเก๋ที่สร้างเอกลักษณ์ได้ดี
การมองหาการ์ดแต่งงานเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะต้องนำการ์ดไปเชิญแขกที่มาร่วมงาน ดังนั้นถ้าคุณทำออกมาได้ดี ย่อมทำให้เกิดการจดจำและช่วยกระตุ้นความจำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ดีด้วยช่วยกัน ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ไอเดียการ์ดงานแต่งสุดเก๋ที่สร้างเอกลักษณ์ได้อย่างดีเยี่ยม คือ
1.การ์ดเน้นลูกเล่น font
การ์ดที่เน้นลูกเล่น font หรือตัวอักษรที่มีความแปลกใหม่ในหลากหลายรูปแบบ จะช่วยทำให้การ์ดแต่งงานของคุณดูเด่นมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือไม่ต้องวุ่นวายเลือกสีพื้นหลังของการ์ดมากนัก เพราะไม่ว่าคุณจะใช้สีพื้นฐานอย่างสีขาว, สีดำ, สีชมพู, สีฟ้า หรือสีใดก็ตาม เพียงแค่มี font หรือตัวอักษรที่เป็นลูกเล่นหลากหลายดีไซน์ ก็จะทำให้การ์ดนั้นเด่นขึ้นมาทันที ซึ่งในปัจจุบันตัวอักษรหรือ font ดีไซน์แปลกใหม่เป็นจำนวนมาก คุณจึงสามารถเลือกเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการ ได้แน่นอน
2.การ์ดใส
ช่วงปี 2020-2021 การ์ดแต่งงานแบบใสได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจะทำจากแผ่นพลาสติกใสคุณภาพที่มีความแข็งและอ่อนแล้วแต่ความต้องการของผู้สั่งทำ ส่วนรูปแบบของฟอนต์จะมาทั้งการพิมพ์ด้วยหมึกแบบพิเศษที่สามารถพิมพ์ลงสู่แผ่นพลาสติกได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะลอกร่อนแต่อย่างใดและแบบสลักฟอนต์ลงแผ่น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการ์ดที่ให้ความเก๋และมีเอกลักษณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
3.การ์ดรูปทรงเรขาคณิต
การ์ดแต่งงานรูปทรงเรขาคณิตที่ไม่ว่าจะเป็นทรงกลม, ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส, ทรง 5-6 เหลี่ยม หรือแม้แต่รูปทรงสามเหลี่ยมก็มีคนคิดทำขึ้นมาเพื่อให้เป็นไอเดียการ์ดงานแต่งสุดแปลกใหม่ พร้อมการใช้ฟอนต์แบบ Modern ผสมผสานลงไปในแบบรูปทรงเรขาคณิต เพื่อทำให้ดูทันสมัยเข้ากับยุคดิจิทัลมากขึ้นอีกด้วย
4.การ์ดการ์ตูน
การ์ดการ์ตูนจะถูกทำขึ้นมาหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำรูปของคู่บ่าว-สาวทำในรูปแบบการ์ตูนบนหน้าการ์ดและใส่ตัวอักษรที่นิยมใช้ในการวาดการ์ตูน มาทำให้เหมือนคุณกำลังนั่งดูหนังสือการ์ตูนรุ่นเก่า รวมไปถึงการทำให้กลายมาเป็นอนิเมะหรือการ์ตูนรุ่นใหม่ โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบการ์ตูนใหม่และเก่าอย่างครบครัน เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับการ์ดแต่งงานมากยิ่งขึ้น
5.การ์ดฉลุ
ถ้าต้องการความแปลกที่ไม่เหมือนใคร ลองใช้รูปแบบการ์ดแต่งงานลายฉลุที่มีการทำขึ้นมาเป็นลายดอกไม้ ลายไทย และลวดลายต่าง ๆ แล้วแต่คู่บ่าว-สาวจะสั่งทำ โดยจะมีส่วนที่สามารถใส่รายละเอียดต่าง ๆ ของคู่บ่าว-สาวไว้ตรงกลางหรือตรงจุดที่เหมาะสม ส่วนขอบของกระดาษจะเป็นลายฉลุทั้งหมด ซึ่งการ์ดประเภทนี้จะให้ความสวยที่เรียบหรูเลยทีเดียว
เรื่องควรรู้ก่อนเลือกสั่งทำการ์ดแต่งงาน
เมื่อคุณตกลงใจที่จะเลือกดีไซน์ของการ์ดแต่งงานได้แล้ว คุณควรรู้เรื่องเหล่านี้ก่อนที่คุณจะสั่งผลิต เพื่อทำให้การ์ดที่คุณต้องการออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด คือ
- ถ้าต้องการให้จดจำได้ดีมากขึ้น ควรเลือกการ์ดและธีมแต่งงานสไตล์เดียวกัน
- ภายในการ์ดควรระบุวันที่-เดือน-ปี, เวลาแต่งงาน และสถานที่จัดงานแต่งให้ชัดเจนที่สุด
- ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกสีการ์ดด้วยสีใดดี ให้คุณเลือกสีเดียวกับธีมงานแต่งของตัวเอง
- การแจกการ์ดแต่งงาน ควรแจกล่วงหน้าก่อนจัดงานประมาณ 7-14 วัน ส่วนผู้ใหญ่หรือเจ้านายควรแจกการ์ดล่วงหน้าประมาณ 1-2 เดือน จึงควรต้องคำนวณช่วงเวลาในการผลิตการ์ดให้ดี
- การผลิตการ์ดแต่งงานควรทำมากกว่าจำนวนผู้มางานที่ประเมินไว้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
- ถ้าต้องการให้ผู้รับการ์ดรู้สึกถึงความใส่ใจ คุณควรเขียนชื่อหน้าซองด้วยลายมือของคุณเอง แต่ถ้าต้องแจกจำนวนมากให้คุณเลือกใช้ฟอนต์ที่ใกล้เคียงกับลายมือมากที่สุด
- โทนสีของตัวอักษรและการ์ดจะต้องตัดกัน เพื่อทำให้มองเห็นข้อความชัดเจน โดยเฉพาะการ์ดของผู้ใหญ่
- ก่อนส่งข้อความใด ๆ ให้โรงพิมพ์ ควรตรวจสอบคำผิดให้ดีและเว้นวรรคให้ถูกต้อง
- ขนาดของการ์ดแต่งงานที่เหมาะสม คือ 6.25 x 5 นิ้ว ที่ถือว่าเป็นการ์ดมาตรฐาน
- กระดาษที่ใช้ทำการ์ดควรมีคุณภาพ เพื่อไม่ให้เสียหายง่ายเกินไป
- ควรทำซองใส่การ์ดด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายและผู้ที่มาร่วมงานจะสามารถนำเงินใส่ซองได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมซองมาเอง
ถ้าคุณต้องการได้การ์ดแต่งงานที่ดีที่สุดและเป็นไอเดียที่มีเอกลักษณ์ คุณสามารถเลือกใช้จากทั้ง 5 ดีไซน์ที่แนะนำไปประยุกต์กับการ์ดงานแต่งของคุณได้เลยและควรระบุข้อมูลต่าง ๆ ให้ชัดเจน พร้อมการตรวจสอบการ์ดให้ดีก่อน เพื่อทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดและจดจำการ์ดของคุณได้เป็นอย่างดี จึงสามารถมาร่วมงานได้ตรงวันและเวลาที่คุณต้องการ