ก่อนการแต่งงานหลากหลายคู่จะมักว่างแผนในการดำเนินงาน การจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่การแต่งงาน การ์ดเชิญงานแต่ง การหนดธีมแต่งงาน การหาชุดในการแต่งงาน แขกที่จะมาร่วมงาน เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่จำเป็นมากพอๆกันคือการหาฤกษ์แต่งงาน โดยการหาฤกษ์แต่งงานจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลซะมากกว่า อาจไม่ได้เป็นพิธีที่สำคัญจะพูดได้ว่ามีก็ดีไม่มีก็ได้
แต่ในบางครอบครัวค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับฤกษ์แต่งงานมากๆเพราะมีความเชื่อที่ว่าเมื่อฤกษ์แต่งงานดีชีวิตคู่ที่จะดำเนินต่อจากนี้ไปก็จะดีไปด้วย เหมือนกับประตูที่เราเปิดถูกบาน ฉะนั้นในบางครอบครัวจะค่อนข้างจริงจังกับฤกษ์แต่งงาน เช่นครอบครัวเชื้อสายจีน เป็นต้น
พิธีจีน
ส่วนการหาฤกษ์แต่งงานแบบจีนนั้นก็จะมีรายละเอียดมากกว่าแบบไทย ดังนั้นควรเตรียมข้อมูลและคำถามไปดังต่อไปนี้
- ชื่อนามสกุลของคู่บ่าวสาว พร้อมกับวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก สถานที่เกิด
- ชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย เพื่อหาสมพงษ์ วันชง ปีชง (เฉพาะท่านที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น)
- วันเดือนปีและช่วงเวลาที่ต้องการจัดงานแต่งงาน
- สถานที่จัดงานแต่งงาน บ้าน หรือ โรงแรม เพื่อดูตำแหน่งฮวงจุ้ย
- ทิศของบ้านและหัวเตียง
คำถาม
- หลังแต่งงาน ฝ่ายชายจะย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายชาย หรือมีเรือนหอใหม่
- ควรสอบถามฤกษ์เข้าบ้านใหม่ หรือฤกษ์เข้าเรือนหอใหม่ด้วย
- ควรสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการงาน ทำมาค้าขาย การทำธุรกิจจะดีจะรุ่งไหมหลังจากแต่งงานแล้วให้เรียบร้อย
- สอบถามเรื่องทายาทว่าควรมีกี่คน มีชายก่อนหรือหญิงก่อนถึงจะดี
สำหรับฤกษ์ที่ใช้ในงานแต่งงานพิธีจีนมีดังต่อไปนี้
- ฤกษ์สู่ขอ
- ฤกษ์ยกขันหมาก
- ฤกษ์หมั้น
- ฤกษ์สวมแหวน
- ฤกษ์ยกน้ำชา
- ฤกษ์ปูเตียง
- ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ
- ฤกษ์จดทะเบียน
- ฤกษ์รับตัวเจ้าสาว
- ฤกษ์ตัดชุดเจ้าสาว
- ฤกษ์ตัดผมเจ้าสาว
- ฤกษ์ส่งตัวไหว้ฟ้าดิน
นอกจากนี้ยังต้องมีของใช้ด้วยได้แก่
ฝ่ายชาย
- ของใช้ฤกษ์พิธีหมั้นฝ่ายชาย
- ส้มเช้ง 24 หรือ 48 ผล พร้อมติดตัวอักษรซังฮี้
- ขนมจันอับ 2 ห่อใหญ่
- เงินซื้อของไห้เจ้า 240 บาท
- แหวนหมั้น 1 วง
- ของใช้ฤกษ์พิธีแห่ขันหมากฝ่ายชายมี
- ค่าสินสอด
- ค่าขนม
- ค่าผลไม้
- หมี่ซั่ว
- ค่าชุดเจ้าสาว
- ค่าน้ำนม (ขาหมู)
ขอบคุณจากข้อมูลดีจาก weddinglist