6 เคล็ดลับ ดึงให้แขกมาร่วมงาน อยู่ได้จนจบพิธี

6 เคล็ดลับ ดึงให้แขกมาร่วมงาน อยู่ได้จนจบพิธี

เรื่องสำคัญของการจัดงานแต่ง คือ การสร้างบรรยากาศของงานให้มีความโรแมนติก อบอุ่น และสามารถเข้าถึงผู้ที่มาร่วมงาน เพื่อดึงให้แขกที่มาภายในงานอยู่ได้จนจบพิธี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญมาก เพราะบางงานต้องเผชิญกับปัญหาที่เมื่อรับประทานอาหารแล้ว หรือเพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของงาน กลับกลายเป็นแขกน้อยลงจนแทบจะกลายเป็นงานร้างกันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงขอแนะนำ 6 เทคนิคให้แขกผู้มาร่วมงาน สามารถอยู่ภายในงานแต่งของคุณได้จนจบพิธี ดังนี้

1.ไม่เชิญแขกมากเกินไป

การเชิญแขกผู้มาร่วมงาน ไม่ควรเชิญมากเกินไป โดยเฉพาะหลักร้อยคนขึ้นไป เพราะจะทำให้กลายเป็นเจ้าของพิธีอย่างคู่บ่าวสาวไม่สามารถที่จะเข้าถึงและดูแลแขกภายในงานได้ครบทั้งหมด จึงทำให้แขกส่วนหนึ่งรู้สึกมาแล้วไม่สนุก ได้พูดคุยกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวน้อยเกินไป หรืออาจจะแทบไม่ได้คุยเลย จึงกลายเป็นความไม่พึงพอใจที่พาให้ออกจากพิธีไปแบบง่าย ๆ ดังนั้นจึงควรเลือกที่จะเชิญแขกในปริมาณที่เหมาะสม เน้นเป็นคนสนิท เพื่อนที่รู้จักกัน ญาติพี่น้อง หรือคนใกล้ชิดที่จะทำให้คู่บ่าวสาวสามารถเข้าถึง พูดคุย และแสดงความยินดีร่วมกันได้ครบทุกโต๊ะ โดยไม่ทำให้ใครต้องมานั่งเหงาหรือเดียวดายจนไม่อยากอยู่ต่อ

2.บรรยากาศสำคัญที่สุด

บรรยากาศภายในงานควรเป็นไปอย่างสนุกและไม่ควรปล่อยให้มีช่องว่างเกิดขึ้น งานควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการว่าจ้างออแกไนซ์จัดงาน พิธีกร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องภายในงานควรเป็นมืออาชีพ ที่สามารถทำให้บรรยากาศสนุกสนานและบันเทิงไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีช่องว่างที่อาจทำให้แขกภายในงานรู้สึกเบื่อหน่าย รวมไปถึงปัญหาที่อาจพาให้งานสะดุดกลางทาฃไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด เพราะปัญหานี้จะทำให้แขกออกจากงานแล้วกลับบ้านกันได้ง่ายมากที่สุด

3.อาหารและเครื่องดื่มต้องถึง

อาหารและเครื่องดื่มถือว่ามีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะถ้าเตรียมมาไม่เพียงพอต่อผู้ที่มาร่วมงาน ย่อมทำให้เกิดความไม่พึงพอใจแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่มาช่วงหลัง เมื่อมาถึงงานแล้วกลับพบว่าทั้งอาหารและเครื่องดื่มหมดไปแล้วเรียบร้อย ไม่มีการเติมหรือเลี้ยงแขกผู้ที่มาช้า อาจจะยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจหนัก ซึ่งเรื่องนี้แก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการเตรียมความพร้อมอาหารให้เกินจำนวนแขกที่มาร่วมงาน 1 เท่า แต่ทั้งนี้ต้องดูงบประมาณของคุณด้วยว่าเหมาะต่อการเพิ่มอาหารในส่วนใด ถ้าไม่ต้องการให้เป็นอาหารหลัก ควรเตรียมเป็นอาหารกล่องแบบ Box set หรืออาหารสไตล์ออเดิร์ฟ เมื่อมีผู้มาช้าจะได้สามารถหยิบไปรับประทาน พร้อมกับเครื่องดื่มที่มีเติมตลอดได้เลย

4.ขั้นตอนงานต้องตรงเวลา

สำหรับขั้นตอนของงาน เมื่อถูกระบุไว้ภายในการ์ดงานแต่งแล้ว ควรจะต้องเป็นไปตามเวลาทั้งหมด การจัดขั้นตอนงานควรเป็นไปตามเวลาทุกขั้นตอน ไม่ควรเกินออกไปเป็นหลักชั่วโมงหรือเวลาผิดเพี้ยน จนกลายเป็นงานต้องเลิกดึกขึ้น เพราะอาจจะทำให้ผู้ที่มาร่วมงานไม่สะดวกและกลายเป็นการกลับก่อนเวลา ดังนั้นเมื่อจัดเตรียมเวลาไว้เรียบร้อยแล้ว ควรทำให้ตรง ที่สำคัญคือถ้าคุณปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปมาก ไม่ตรงตามขั้นตอน ย่อมทำให้คุณเสียเงินค่าจัดงานเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

5.ความสะดวกต้องมีพร้อม

ความสะดวกของพื้นที่จอดรถ พื้นที่สำหรับผู้สูบบุหรี่ พื้นที่สำหรับการเล่นของเด็ก ๆ ห้องน้ำ โต๊ะและเก้าอี้ รวมถึงจุดถ่ายภาพต่าง ๆ ควรต้องมีให้พร้อมภายในงาน ดังนั้นคู่บ่าวสาวจึงควรเลือกสถานที่ให้เหมาะสม เดินทางง่าย และอำนวยความสะดวกได้ครบครันทุกด้านให้กับแขกผู้มาร่วมงาน ไม่เช่นนั้นถ้าแขกมาถึงที่แล้วพบว่าจุดใดจุดหนึ่งมีไม่เพียงพอและไม่สะดวก ย่อมต้องรู้สึกอยากกลับก่อนงานจบอย่างแน่นอน

6.งานต้องสนุกครึกครื้นตลอด

การจ้างวงดนตรีที่ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรีสด วงดนตรีบรรเลง หรือแม้แต่พิธีกรภายในงาน ควรจะต้องเป็นมืออาชีพด้านงานบันเทิงและงานแต่งโดยเฉพาะ ต้องสามารถพูดคุยและดึงให้ผู้ที่มาร่วมงานรู้สึกสนุก น่าติดตาม พร้อมทำให้จุดสนใจอยู่บนเวทีตลอด เพื่อลดบรรยากาศแสนน่าเบื่อ ทั้งยังต้องควบคุมให้เพลงมีความสมดุลไปกับงาน ทั้งในเรื่องของระดับเสียงและการกำหนดเพลงที่เหมาะสม เพื่อทำให้เกิดความสนุกมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันถ้าเมื่อถึงพิธีแต่งแล้ว จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในบรรยากาศอันแสนน่าประทับใจได้ทันที การจ้างออร์แกไนเซอร์ หรือ Wedding Planner และทีมงานผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ จึงถือว่ามีความสำคัญมาก

ถ้าคุณต้องการให้แขกผู้มาร่วมงานอยู่ร่วมกับพิธีงานแต่งจนจบ คุณควรใช้ทั้ง 6 เคล็ดลับนี้ พร้อมการเข้าถึงผู้มาร่วมงานทุกคน การได้พูดคุย ทักทาย และได้ใส่ใจผู้ที่มาร่วมงาน จะยิ่งเพิ่มความประทับใจ ทำให้คู่บ่าวสาวดูมีความเป็นมืออาชีพ  พร้อมทำให้งานแต่งเป็นไปอย่างราบรื่นและแขกมาร่วมงานจนจบแน่นอน