หนึ่งในสถานที่จัดงานแต่งที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร ทั้งในอดีตและปัจจุบัน คือ การแต่งงานบนเรือ เพราะให้บรรยากาศสวยในยามค่ำคืนที่เหมาะต่อการจัดเลี้ยงช่วงเย็นเป็นอย่างมาก โดยเรือจะล่องไปตามเส้นทางต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เพลิดเพลินและมีการจัดพิธีแต่งเหมือนกับโรงแรมทั่วไป ดังนั้นถ้าคุณสนใจที่จะจัดงานแต่งบนเรือ ขอแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนแต่ง ดังนี้
1.เลือกรูปแบบพิธีให้ชัดเจน
เรื่องแรกที่คุณควรจะเตรียมให้พร้อม คือ รูปแบบของการจัดงานแต่ง ควรจะต้องมีการพูดคุยกันเองระหว่างคู่บ่าวสาว เพื่อการตกลงที่ชัดเจน จากนั้นจึงค่อยติดต่อกับทางเรือที่รับจัดงานแต่งโดยเฉพาะ พร้อมระบุเรื่องของธีมงานหรือรูปแบบงานที่ต้องการให้ชัดเจนที่สุด ซึ่งในส่วนนี้คุณควรตกลงให้เรียบร้อยและตรงกันก่อน เพราะการจัดพิธีการต่าง ๆ บนเรือ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีรูปแบบและขั้นตอนตรงตามเวลาที่ถูกกำหนดไว้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นอาจพาให้ระบบการรับงานของเรือเกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ในเรื่องของการแต่งหน้า ทำผม และการจัดเตรียมต่าง ๆ ในเรื่องชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ควรจัดมาเองให้เรียบร้อย พร้อมมาขึ้นเรือได้เลยทันที เพื่อทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
2.ตรวจงานก่อนเวลาจริง
เมื่อทางเรือได้มีการติดต่อคู่บ่าวสาวเรื่องการจัดและตกแต่งสถานที่เรียบร้อยแล้ว คุณควรสละเวลาก่อนเริ่มงานประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อไปตรวจงานจริงให้เรียบร้อยก่อนและควรไปด้วยตัวคุณเอง ถ้ามีจุดใดที่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือต้องการปรับใหม่ จะได้มีเวลาเพียงพอในการปรับเปลี่ยน แต่ทั้งนี้ควรทำแบบข้อแรก คือ การวางแผน ระบุงานให้ชัดเจน และจัดเตรียมความพร้อมให้ครบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจจะกลายเป็นอุปสรรคจนพางานล่มได้
3.บ่าวสาวควรมาก่อนเวลา
เมื่องานเตรียมพร้อมที่จะเริ่มต้นแล้ว คู่บ่าวสาวที่เริ่มจัดเตรียมทั้งการแต่งหน้า ทำผม และการสวมใส่ชุดบ่าวสาว ควรทำให้เรียบร้อยและมาก่อนเวลางานประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการมาเตรียมความพร้อมเรื่องขั้นตอนต่าง ๆ โดยเฉพาะขั้นตอนบนเวทีที่จะต้องมีการพูดคุยกับพิธีกรภายในงาน นอกจากนี้จะต้องมีการเตรียมในเรื่องของงานต่าง ๆ ที่จะตรงตามเวลาทั้งหมด เนื่องมาจากการล่องเรือยามค่ำคืน เพื่อให้ครบทุกสถานที่จะต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่มาร่วมงานและต้องนำรถไปจอดที่โรงแรมหรือสถานที่จอดรถแบบเสียเงิน อาจจะต้องมีปัญหาไปด้วย ดังนั้นคู่บ่าวสาวจึงควรมาให้ถึงก่อนเวลา เพื่อการมาเตรียมพร้อมรับแขกภายในงานและการทำความเข้าใจต่อช่วงเวลาต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อดำเนินงานไปอย่างราบรื่นและไม่เกินเวลามากเกินไป
4.ตรวจสอบเรื่องการฉีดวัคซีน
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้และควรทำ คือ การตรวจสอบเรื่องการฉีดวัคซีน เพราะด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทำให้การจัดงานแต่งและงานต่าง ๆ ต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดงานบนเรือในช่วงเวลานี้จะมีกฎเรื่องของผู้มาร่วมงานและพนักงานบนเรือทั้งหมด รวมไปถึงคู่บ่าวสาวจะต้องผ่านการฉีดวัคซีนมาครบทั้ง 2 เข็ม หรืออาจจะอนุโลมให้ครบตั้งแต่ 1 เข็มขึ้นไป นอกจากนี้ผู้จัดงานบนเรือบางแห่งจะมีการกำหนดเรื่องของยี่ห้อวัคซีนไว้ด้วย และบางแห่งอาจจะต้องมีการตรวจด้วยชุด ATK ก่อนขึ้นเรืออีกด้วย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้ให้ดีก่อนการจ้างงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงของการจัดงานแต่งได้
5.เส้นทางการล่องเรือ
เส้นทางของการล่องเรือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่คุณจะต้องกำหนดไว้ให้เรียบร้อย เพราะถ้าไม่กำหนดเส้นทาง เวลาในการจัดงานอาจจะยืดออกไปและจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้รับจัดงานแต่งบนเรือจะมีการระบุถึงเส้นทางของการเดินเรือไว้ให้ก่อนอยู่แล้ว เช่น การล่องเรือตั้งแต่ช่วงวัดอรุณฯ, วัดพระแก้ว, สะพานพระราม 8 แล้ววนกลับสู่จุดเดิมหรืออาจจะล่องไปได้ไกลกว่านั้นอีกเล็กน้อย รวมไปถึงการล่องเรือในจุดอื่น ๆ ของทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งผู้ที่เดินเรือจะรู้ถึงจุดชมวิวที่สวยงามและจุดที่มีความปลอดภัย สามารถเดินเรือได้ดี โดยไม่เกิดอุปสรรคใด ๆ ภายในงาน ซึ่งคุณควรเลือกให้เหมาะสม เพื่อทำให้จบงานตรงตามเวลามากที่สุดและไม่ควรล่องเรือไปตรงจุดที่ผู้เดินเรือไม่แนะนำ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
สำหรับผู้ที่สนใจจะแต่งงานบนเรือและยังไม่รู้ว่าควรต้องเตรียมความพร้อมในด้านใดบ้าง คุณสามารถศึกษาได้จากทั้ง 5 วิธีการเตรียมความพร้อมนี้ เพื่อทำให้งานแต่งเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุใด ๆ และไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 ที่กำลังระบาดในช่วงนี้อีกด้วย