การเตรียมตัวเพื่อแต่งงานของคู่รักรุ่นใหม่ จะมีหลายส่วนและหลายปัจจัย ที่จำเป็นต้องประเมินก่อนการจัดงานจริง จึงทำให้หลายคู่ต้องคำนวณดูว่าใช้เวลาเท่าไหร่ จึงจะสามารถจัดเตรียมงานที่ต้องการได้ครบ และสมบูรณ์แบบที่สุด จุดนี้เองจึงเกิดเป็นคำถามว่าการเตรียมตัว เพื่อจัดงานแต่งต้องใช้เวลาเตรียมล่วงหน้ากี่เดือน? ถึงจะได้งานออกมาดีที่สุด และสามารถตอบโจทย์คู่บ่าวสาวได้ครบถ้วน และควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไร? เพื่อให้งานแต่งออกมาตรงใจ ขอแนะนำการติดตามภายในบทความนี้ คุณจะได้รายละเอียดครบแน่นอน
การเตรียมตัวแต่งงาน ของคู่รักรุ่นใหม่ ต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานแค่ไหน? มาดู!
เมื่องานแต่งไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่ยังเป็นเรื่องของญาติผู้ใหญ่ และผู้ที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะกลุ่มคู่บ่าวสาวที่มีเพื่อนจำนวนมาก จึงทำให้งานจำเป็นต้องทำออกมาอย่างเหมาะสม และบางงานอาจจะกลายเป็นงานใหญ่ เพราะผู้มาร่วมงานที่อาจเกิน 50-100 คนขึ้นไปเลยทีเดียว ดังนั้นจึงทำให้ต้องมีการจัดเตรียมตัว ก่อนการแต่งงานจริง ดังนั้นถ้าถามว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน? คุณจะต้องประเมินดูจากงบประมาณ และจำนวนแขกผู้มาร่วมงานของคุณ ให้ชัดเจนที่สุด เมื่อแจกการ์ดแล้ว สามารถมาร่วมงานได้กี่คน?
งบประมาณของคุณที่มีอยู่ตอนนี้ เพียงพอต่อการจัดงานแต่ง ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า หรือไม่? นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องของฤกษ์ยามจากพระสงฆ์ หรือหมอดูที่คู่บ่าวสาวให้ความเคารพ เรื่องทั้งหมดนี้จะต้องถูกประเมินมาอย่างดี จึงจะตีออกมาเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับแต่ละคู่บ่าวสาว ซึ่งบางคู่อาจใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน สามารถแต่งได้ทันที แต่ในขณะเดียวกันบางคู่ อาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน 1-3 ปี จึงจะเกิดเป็นงานแต่งได้ ดังนั้นการจะตอบคำถาม เรื่องการเตรียมตัวนานแค่ไหน? ให้ชัดเจนที่สุด จึงขึ้นอยู่กับความต้องการ ความพร้อม และความสะดวกของคู่บ่าวสาวเป็นหลัก
วิธีการเตรียมตัวเพื่อการจัดงานแต่ง ต้องทำอย่างไร?
เมื่อคุณรู้แล้วว่าจะต้องวางแผนแต่งงาน ในช่วงระยะเวลากี่เดือน พร้อมการประเมินสถานการณ์รอบด้าน มาเป็นอย่างดี เรื่องต่อไปที่คุณควรรู้ คือ การเตรียมตัว เพื่อจัดงานแต่งจะต้องทำอย่างไร และมีขั้นตอนแบบไหน ขอแนะนำวิธีเตรียมตัว ดังต่อไปนี้
1.การติดต่อกับญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย
เรื่องแรกที่คุณควรทำ คือ การเริ่มติดต่อกับผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย จากนั้นจัดสรรเวลา เพื่อไปพบกับญาติผู้ใหญ่ ทำความเข้าใจเรื่องงานแต่ง สินสอด และรายละเอียดต่าง ๆ ในการจัดงาน รวมไปถึงการไปเยี่ยม พูดคุย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อญาติผู้ใหญ่ เพื่อทำให้การจัดงานแต่งเป็นไปอย่างราบรื่น
2.เตรียมเรื่องชุดแต่งงานและการแต่งหน้า
ช่วงก่อนแต่งงานจริงประมาณ 6 เดือน หรือเรียกได้ว่าเป็นเรื่องแรก ๆ เกี่ยวกับงานแต่งที่คุณควรทำ คือ การเตรียมชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว โดยคุณทั้งคู่จะต้องไปเลือกดีไซน์ชุด ลองชุด และพูดคุยกับช่างหรือร้านเช่าชุด ด้วยตัวคุณเองทั้งหมด พร้อมการไปลองชุดตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป เพื่อทำให้ออกมาเหมาะสมต่อรูปร่าง และความต้องการของคุณได้อย่างสูงสุด พร้อมช่วยลดความผิดพลาดของชุด ที่อาจจะไม่เหมาะสมต่อรูปร่างคุณ ในช่วงเวลานั้น ๆ นอกจากนี้อย่าลืมเรื่องช่างแต่งหน้าวันงาน ที่คุณควรจะต้องมีการจองคิวไว้ล่วงหน้าด้วยเช่นกัน
3.ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งและเตรียมช่างภาพในงาน
สำหรับคู่รักที่ต้องการภาพพรีเวดดิ้ง ไว้ตกแต่งงานวันจริง หรือเก็บไว้เป็นความทรงจำแห่งความสุข แนะนำให้คุณเริ่มต้นมองหาสตูดิโอถ่ายพรีเวดดิ้งได้เลย และควรจัดสรรเรื่องเวลา เพื่อไปถ่ายให้จบอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะถ้าจัดสรรเวลาไม่ดี ไปถ่ายภาพแบบกระชั้นชิด อาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่พาให้คุณต้องเสียเวลามากขึ้น เช่น วันที่คุณไปถ่ายอาจติดปัญหาเรื่องฝนตก หรือสภาพอากาศที่ไม่ดีเพียงพอ และสถานที่นั้น ๆ อาจปิดทำการ เป็นต้น และอีกหนึ่งเรื่องที่คุณควรให้ความสำคัญ คือ การเตรียมช่างภาพกับช่างวิดีโอภายในงานแต่งไว้ได้เลย
4.เลือกสถานที่จัดงาน
เริ่มต้นการเลือกสถานที่ สำหรับจัดงานแต่งไว้ล่วงหน้า ด้วยการเข้าไปสอบถามรายละเอียด สถานที่น่าสนใจเป็นพิเศษ หรือคุณเล็งไว้แล้ว ควรเข้าไปขอราคาการจัดงาน ถ้าที่ใดมีแพ็คเกจสำหรับการจัดงานแต่งโดยเฉพาะ ที่นั่นถือว่าน่าสนใจมาก จะช่วยคุณประหยัดงบได้ดี และถ้าเป็นสถานที่สวยงาม ถูกตกแต่งเพื่อการจัดงานไว้แล้ว จะยิ่งเป็นตัวช่วย ทำให้คุณไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม และสามารถลงไปจัดงานแต่งได้ทันที ซึ่งจะให้ทั้งการประหยัดงบ มีพื้นที่สำหรับจอดรถของผู้มาร่วมงาน การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, เครื่องดื่ม, ที่นั่ง หรือแม้แต่เค้กฉลองมงคลสมรส เรียกได้ว่าให้ความสะดวกคุณแบบครบทุกด้าน จะตอบโจทย์คู่บ่าวสาวรุ่นใหม่ได้ดีที่สุด
5.การเตรียมตัวของคู่บ่าวสาว
การเตรียมตัวของคู่บ่าวสาว เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้าม คือ การเข้าคอร์สสำหรับเจ้าสาว และเจ้าบ่าวที่จะมีทั้งการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก แล้วได้รูปร่างที่เหมาะสมต่อการสวมใส่ชุดแต่งงานได้อย่างโดดเด่น การดูแลผิวพรรณทั้งใบหน้าและผิวกาย รวมไปถึงการซักซ้อมพิธีทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นบนเวที เป็นต้น
ถ้าคุณต้องการเตรียมตัวแต่งงาน แล้วไม่จำเป็นต้องกู้เงิน เพื่อไปจัดงานแต่ง เตรียมความพร้อมให้ตัวเอง แต่งงานได้อย่างสบายใจ แนะนำการประเมินเพื่อเตรียมการล่วงหน้า ให้เหมาะสมต่อช่วงเวลา ที่คุณจะมีงบประมาณเพียงพอ ในการจัดงานแต่ง และเตรียมทุกด้านไว้พร้อม ครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อทำให้งานออกมาดีที่สุด และไม่พาให้คู่บ่าวสาวต้องเดือดร้อนกับเรื่องการเงินอีกด้วย