เลือกชุดเจ้าสาวอย่างไร เมื่อถึงวันจริง จะให้ความสวยที่ใส่สบาย ไม่ทำให้ต้องหงุดหงิด
ชุดเจ้าสาวเป็นหนึ่งในชุดที่มีความสำคัญมาก ของชีวิตผู้หญิง เพราะจะต้องสวยและโดดเด่นที่สุด ภายในงาน แต่อีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน คือ ชุดที่สวมใส่วันจริง ต้องทำให้เจ้าสาวรู้สึกสบายตัว ร่วมไปด้วย ไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้น แต่จะต้องมาพร้อมวิธีใส่ที่ง่าย รู้สึกสบายตัว สบายใจไปตลอดทั้งงาน เนื้อผ้าต้องดี ไม่ทำให้คันหรือเสียดสีผิวและจุดต่าง ๆ จนเกิดบาดเจ็บ ดังนั้นวิธีการเลือกชุดเจ้าสาวให้สวมใส่สบาย จึงเป็นเรื่องที่คุณควรให้ความใส่ใจมากที่สุด
แนะนำ 4 วิธีเลือกชุดเจ้าสาว! เพื่อให้ออกมาสวยตอบโจทย์ ใส่สบาย ไม่ทำให้หัวเสียวันงานจริง
การเลือกชุดเจ้าสาว ไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ควรจะต้องสวมใส่แล้ว ทำให้รู้สึกสบายตัวตลอดทั้งงาน จึงทำให้เกิดความราบรื่น เจ้าสาวสามารถยิ้มออกได้เต็มที่ และไม่ทำให้รู้สึกต้องหงุดหงิด จนอาจทาให้เกิดปัญหาภายในงานได้ ดังนั้นจึงขอแนะนำ 4 วิธีเลือกชุดเจ้าสาว เพื่อให้ออกมาสวยตอบโจทย์ ความต้องการของคุณ และสวมใส่ได้แบบสบายตัว ยิ้มรับความสุขได้ตลอดทั้งงาน ดังนี้
1.อย่าเลือกแค่สวย แต่ต้องเลือกที่เหมาะ
การเลือกชุดเจ้าสาว ควรเลือกให้เหมาะสมต่อรูปร่างก่อน อย่าเลือกแค่ความสวยงาม แต่กลับใส่แล้วไม่สบายใจ เพราะชุดที่สวยอาจไม่เหมาะต่อรูปร่าง และอาจจะมีจุดที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้ ดังนั้นควรเริ่มต้นจากการดูรูปร่างของคุณเป็นหลัก เช่น ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวรูปร่างอวบ ควรเลือกช่วงกระโปรงเป็นทรงพริ้ว ยาวเรียว และไม่รัดแน่นตรงช่วงสัดส่วนมากเกินไป เน้นความพอดีเป็นหลัก แล้วใช้วิธีกลบจุดด้อย ของรูปร่างบางส่วน ด้วยลวดลายต่าง ๆ หรือถ้าคุณเป็นเจ้าสาวที่มีช่วงต้นขาและสะโพกใหญ่ ให้เลือกใช้เป็นกระโปรงทรงเอ พรางช่วงบริเวณขายาวลงมา ที่สำคัญคือกระโปรงทรงนี้ จะช่วยทำให้รูปร่างดูมีสัดส่วนสวยงามมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งช่างตัดชุดจะมีการออกแบบ มาให้เหมาะสำหรับรูปร่างของเจ้าสาวแต่ละรูปร่างอยู่แล้ว จึงมีให้คุณเลือกได้อย่างตรงใจแน่นอน
2.เนื้อผ้าและ Detail ของชุด
เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วนุ่ม ให้สัมผัสที่ดี ไม่มี Detail ของชุดที่อาจจะพาให้รู้สึกคันได้ง่าย หรืออาจเสียดสีกับผิวจนกลายเป็นรอยและเป็นแผล ช่วงของการเดินและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ซึ่งอาจเกิดจากผ้าสไตล์ลูกไม้ ถ้าเนื้อผ้าแข็งเกินไปย่อมทำให้เกิดอาการคัน นอกจากมีควรดูจุดต่าง ๆ ของชุดว่ามีเนื้อผ้าหรือเศษด้ายใด ๆ เกินออกมา แล้วทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือไม่ เพราะถ้าคุณสัมผัสได้ตั้งแต่วันลองชุด จะสามารถบอกช่างเพื่อให้ปรับหรือแก้ไขจุดต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น
3.ลองชุดด้วยตัวเองเสมอ
การไปลองชุด ควรไปด้วยตัวคุณเอง และควรเข้าไปลองจริงเสมอ ไม่ใช่แค่การนำชุดมาทาบกับตัว เพื่อดูว่าเหมาะสมกับรูปร่างหรือไม่ แต่จะต้องสวมใส่จริง ที่สำคัญคือการลองชุดก่อนจะถึงงานแต่งจริง ควรมีประมาณ 2-3 ครั้ง แบ่งเป็นการลองชุดเพื่อมองหาชุดที่เหมาะสมครั้งแรก, การปรับชุดใหม่ เพื่อให้เหมาะสมต่อการสวมใส่ ครั้งที่ 2 และครั้งสุดท้ายจะเป็นการสวมใส่ พร้อมกับรองเท้าและชุดเครื่องประดับแบบครบเซ็ต เพื่อให้ดูว่าวันงานจริง จะออกมารูปแบบใด ที่สำคัญคือควรเคลื่อนไหวด้วยการเดิน, ยืน, นั่ง ให้ครบทุกอิริยาบถ เพื่อดูว่าชุดของคุณจะทำให้สบายตัวไปตลอดทั้งงาน จริงหรือไม่อีกด้วย
4.บอกความต้องการกับทางร้านให้ชัดเจน
ถ้าคุณต้องการความง่าย ของการเลือกชุดแต่งงาน ที่เหมาะสมต่อตัวคุณมากขึ้น แนะนำการแจ้งกับทางร้านที่คุณเช่าหรือซื้อชุด เรื่องของเนื้อผ้า, ดีไซน์ชุด, จุดเด่น-จุดด้อยของรูปร่างคุณ และการปรับแต่ง เพื่อให้ชุดสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายไปตลอดทั้งงาน ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ร้อนง่าย และไม่ชอบสัมผัสเนื้อผ้า ที่อาจพาให้รู้สึกหงุดหงิด ควรบอกช่างไว้ทั้งหมด เพื่อทำให้ทางร้าน ได้ปรับแต่งและเลือกชุดที่เหมาะสม พร้อมตรงต่อความต้องการของคุณได้มากที่สุดไว้ให้
การเลือกเครื่องประดับงานแต่งของเจ้าสาว ให้สวมใส่อย่างมั่นใจในวันงาน
สำหรับเจ้าสาวที่ไม่ค่อยชอบความรู้สึกไม่สบายตัว เมื่อได้ชุดแต่งงานที่ดีและเหมาะสมต่อความต้องการแล้ว เรื่องต่อมาคือการเลือกเครื่องประดับแบบน้อยชิ้น หรือมีความเรียบง่ายมากที่สุด แต่ให้ความหรูหราได้ดี และเป็นธีมเดียวไปกับชุดแต่งงาน ขอแนะนำเครื่องประดับเพชรแบบมินิมอล ที่ไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดมากมาย มีรูปแบบที่เรียบง่าย แต่โดดเด่นมาก สามารถนำไปสวมใส่ได้กับชุดแต่งงานทุกสไตล์ พร้อมให้ความครบชุด ทั้งสร้อยคอ, จี้เพชร, ต่างหู และสร้อยข้อมือที่สวมใส่ได้แบบเบาสบายผิวแน่นอน